วันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2553

reborn


Reborn ครูพิเศษจอมป่วน
ครูพิเศษจอมป่วน รีบอร์น! (ญี่ปุ่น: 家庭教師ヒットマンREBORN! Katekyō Hittoman Ribōn! ?) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นที่ยังดำเนินเรื่องอยู่ เรื่องและภาพโดย อากิระ อามาโนะ[1] โครงเรื่องมีเนื้อหาเกี่ยวกับชีวิตของ ซาวาดะ สึนะโยชิ เด็กนักเรียนมัธยมต้นโรงเรียนนามิโมริที่ไม่มีความโดดเด่นอะไรเลย จนกระทั่ง "รีบอร์น" นักฆ่ามือของวองโกเล่ แฟมิลี่ มาเฟียแห่งอิตาลี เพื่อฝึกให้สึนะเป็นหัวหน้าแก๊งมาเฟียรุ่นที่ 10 ของวองโกเล่ แฟมิลี่[1] ผู้เป็นทายาทโดยตรงของตระกูล
ในประเทศญี่ปุ่น การ์ตูนครูพิเศษจอมป่วน รีบอร์น! ตีพิมพ์ในนิตยสารรายสัปดาห์ โชเน็นจัมป์ โดยติดหนึ่งในอันดับขายดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่น[2] และตีพิมพ์เป็นฉบับรวมเล่มโดยสำนักพิมพ์ชูเอฉะ ปัจจุบันตีพิมพ์มาแล้ว 28 เล่ม สำหรับภาพยนตร์การ์ตูนครูพิเศษจอมป่วน รีบอร์น! ผลิตโดยบริษัทอาร์ทแลนด์ ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2547 จนถึงปัจจุบัน ทางช่องทีวีโตเกียว
ในประเทศไทย ครูพิเศษจอมป่วน รีบอร์น! ได้รับลิขสิทธิ์หนังสือการ์ตูนโดยสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิกส์ ตีพิมพ์รายสัปดาห์ในนิตยสารการ์ตูนซีคิดส์ และตีพิมพ์เป็นหนังสือการ์ตูนรวมเล่มมาแล้ว 24 เล่ม ส่วนภาพยนตร์การ์ตูนได้รับลิขสิทธิ์โดยบริษัท โรส มีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ มีการวางจำหน่ายทั้งในรูปแบบวีซีดีและดีวีดี และได้รับการออกอากาศทางช่องแก๊งการ์ตูน แชนแนลของบริษัทโรส มีเดีย แอนด์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์
เนื้อเรื่อง
ภาคฝึกฝน
ซาวาดะ สึนะโยชิ เป็นเด็กม.ต้นที่ทำอะไรไม่ได้เรื่องทุกด้าน จนถูกเรียกชื่อว่า "สึนะจอมห่วย" วันหนึ่ง สึนะก็ได้พบกับ เด็กชายท่าทางประหลาดคนหนึ่ง ซึ่งแนะนำตัวเองว่าเป็นครูสอนพิเศษที่แม่ของสึนะจ้างมาชื่อว่า "รีบอร์น"มาจากอิตาลี สึนะไม่ยอมรับว่ารีบอร์นซึ่งดูเป็นทารกอยู่ จะเป็นครูสอนพิเศษได้ จนกระทั่งถูกยิงด้วย "กระสุนดับเครื่องชน" ที่กลางหน้า ทำให้สึนะรู้สึกว่าตัวเองจะต้องตาย และรู้สึกเสียใจว่าถ้าหากพยายามสารภาพรักกับซาซางาวะ เคียวโกะ อย่างเอาเป็นเอาตาย เธออาจจะยอมรับรักของเขาก็ได้ ทันทีที่คิดเช่นนั้น ไฟดับเครื่องชนก็ถูกจุดขึ้นที่หน้าผากของสึนะ
เสื้อผ้าของเขาขาดออก และเขาก็วิ่งไปสารภาพรักกับซาซางาวะ เคียวโกะที่เดินอยู่กับรุ่นพี่โมจิดะ อย่างเอาเป็นเอาตายด้วยพลังที่เหลือเชื่อ ผลจากการสารภาพรักครั้งนี้คือเคียวโกะตกใจจนพูดไม่ออก เพราะวิ่งมาสารภาพรักโดยที่ไม่ใส่เสื้อผ้า จากนั้นสึนะจึงยอมรับว่ากระสุนดับเครื่องชนของรีบอร์นมีพลังวิเศษ และรีบอร์นก็ประกาศว่าหน้าที่ที่แท้จริงของเขาคือ การฝึกให้สึนะเป็นหัวหน้าของ "วองโกเล่ แฟมิลี่" ที่เป็นแก๊งค์มาเฟียขนาดใหญ่ที่มีอิทธิพลสูงมากในอิตาลี
รีบอร์นบอกว่าวองโกเล่ แฟมิลี่มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน หัวหน้าคนปัจจุบันคือรุ่นที่เก้า และสึนะจะต้องเป็นรุ่นที่สิบต่อไป โดยหัวหน้ารุ่นแรกคือทวดของทวดของสึนะ เป็นผู้ก่อตั้งวองโกเล่ขึ้น และล้างมือมาอยู่ญี่ปุ่น
หลังจากสึนะแสดงวีรกรรมสารภาพรักในสภาพเปลือยเปล่า รุ่นพี่โมจิดะ ที่แอบชอบเคียวโกะรู้สึกไม่พอใจสึนะ จึงคิดจะให้สึนะขายหน้า โดยให้สึนะประลองเคนโด้ด้วยและวางแผนแกล้งไม่ให้ทำอิปป้งได้ ตอนแรกสึนะไม่กล้าสู้ แต่ต่อมาก็นึกขึ้นได้ว่าถึงจะแพ้แต่ก็จะกลับไปสู้ รีบอร์นจึงยิงกระสุนดับเครื่องชนใส่ สึนะวิ่งเข้าใส่ในชุดกางเกงในก็ทำอิปป้งด้วยการกระชากผมของรุ่นพี่โมจิดะออกจากหัว (ป้งแปลอีกอย่างได้ว่าเส้นผม) ทำให้เพื่อน ๆ ประทับใจในแรงฮึดกับมุกของสึนะ และเดียวโกะก็คุยกับสึนะเป็นครั้งแรก
ผลจากการชนะรุ่นพี่ ทำให้เพื่อน ๆ ชวนสึนะเล่นวอลเล่ย์บอล ช่วงแรกสึนะคิดว่าจะให้รีบอร์นยิงกระสุนช่วย แต่รีบอร์นบอกว่าถ้ายิงโดยไม่มีอะไรคาใจก็ตายจริงแน่ สึนะจึงหนีไป แต่ก็กลับมาด้วยความรับผิดชอบ ในที่สุดรีบอร์นก็ช่วยด้วยการยิงกระสุนดับเครื่องชนที่อื่น จนสึนะชนะได้ ความไม่ได้เรื่องของสึนะอยู่ในสายตาของ "โกคุเดระ ฮายาโตะ" ผู้มาจากอิตาลี ทำให้โกคุเดระไม่ยอมรับสึนะเป็นหัวหน้าของวองโกเล่ จึงท้าประลองโดยโกคุเดระใช้ระเบิดเป็นอาวุธ แต่หลังจากโกคุเดระ ทำระเบิดหล่น และสึนะในโหมดดับเครื่องชน ได้ช่วยดับระเบิดทั้งหมดได้ทัน และเข้าเป็นแฟมิลี่คนแรกของสึนะ
จากผลงานของสึนะที่เริ่มก่อวีรกรรมมากขึ้น (โกคุเดระมีส่วนที่ทำให้วีรกรรมยิ่งโดดเด่น เช่น การระเบิดสนามของโรงเรียน) ทำให้ยามาโมโตะ ทาเคชิ นักเบสบอลของโรงเรียนสนใจเขา ยามาโมโตะมีปัญหากับการเล่นเบสบอลจึงมาปรึกษาสึนะ สึนะบอกให้พยายามซ้อม ยามาโมโตะจึงซ้อมจะแขนหักและเสียใจมากคิดฆ่าตัวตายโดยโดดตึกเรียน สึนะเข้าไปห้ามจนยามาโมโตะเริ่มคิดตก แต่กลับเกิดอุบัติเหตุทำให้ยามาโมโตะร่วงลงไป สึนะโดดตามไปช่วยโดยรีบอร์นสนับสนุนด้วยกระสุนดับเครื่องชน ทำให้ทั้งคู่รอดชีวิตทั้งที่ตกตึกมาด้วยกัน ยามาโมโตะกลายเป็นเพื่อนคนแรกของสึนะ
สึนะได้รู้จักกับแรมโบ้ นักฆ่าที่เป็นเด็กอายุห้าขวบ ที่มาลอบสังหารรีบอร์นแต่ไม่เคยทำสำเร็จ จนกลายเป็นเด็กในบ้านสึนะ และอี้ผิง นักฆ่าที่มาลอบฆ่าสึนะด้วยความเข้าใจผิดเนื่องจากสายตาสั้น ภายหลังได้มาอาศัยในบ้านสึนะ ทำให้สมาชิกในบ้านมีเพิ่มขึ้น และก่อเรื่องปวดหัวให้สึนะมากขึ้น รวมถึง "เบียงกี้" พี่สาวของโกคุเทระ นักฆ่าที่ทำให้อาหารเป็นพิษที่คิดจะมาฆ่าสึนะตลอดเวลาเพื่อพารีบอร์นกลับไป แต่ความที่เบียงกี้ชอบรีบอร์นมากจึงรับคำ ไม่ฆ่า สึนะอีก และดีโน่ หัวหน้าคาบัคโรเน่แฟมิลี่ เป็นศิษย์รุ่นพี่ของสึนะโดยเคยเป็นลูกศิษย์ของรีบอร์นมาก่อน จนมาถึงตอนที่ ฟูตะ นักจัดอันดับแรงกิ้งที่แม่นยำที่สุด โดยมาเฟีย ไล่ล่าขอรายชื่อ เพื่อตามล้างบางแฟมิลี่อื่น ต้องให้สึนะมาช่วย จนต้องมาอยู่ด้วยกันอีก
การท้าทายจากมุคุโร่
หลังจากที่เริ่มการฝึกไปได้ไม่นาน "มุคุโร่" ได้นำนักฆ่าหลายคนเข้าทำร้ายเด็กนามิโมริ 1ในนั้นคือ ซาซางาวะ เรียวเฮ สึนะจึงเข้าไปหา หลังจากที่กำลังออกจากห้องของเรียวเฮ ก็ได้พบกับคุวาซาเบะที่นอนซมอยู่บนเตียงฉุกเฉิน ขณะเดียวกัน หางของเลอ้อนก็หลุดออก และเนื่องจากการที่มุคุโร่ส่งนักฆ่าหลายคนมาทำร้ายเด็กโรงเรียนนามิโมริ ฮิบาริจึงไปจัดการกับมุคุโร่เพราะความโกรธ แต่กลับแพ้ไม่เป็นท่าเพราะโรค"ซากุระโซซัดโซเซ"ที่เมื่ออยู่มองดอกซากุระแล้ว จะยืนไม่ขึ้น เนื่องจากโดน "ไทเด้นซ์ มอสคิวโต้"ของ ดร. ชามาล ในขณะเดียวกัน ขณะที่โกคุเทระกำลังเที่ยวอยู่ก็มาเจอ1ในนักฆ่าของมุคุโร่"จิคุสะ"โดยบังเอิญ ทำให้เกิดการต่อสู้ขึ้น จิคุสะนั้นได้เพลี้ยงพล้ำต่อโกคุเทระ แต่ขณะเดียวกันก็โดนพิษจากอาวุธของเขา"โยโย่"เช่นเดียวกัน ทำให้ต้องไปที่ห้องพยาบาลของโรงเรียนนามิโมริ หลังจากที่สึนะออกจากห้องพยาบาลไปแล้ว สึนะก็ได้พบว่าเลอ้อนกลายเป็นดักแด้ไปแล้ว จากนั้นรีบอร์นก็บอกให้ไปถล่มพวกมุคุโร่ และบอกว่ากระสุนดับเครื่องชนเหลืออยู่แค่นัดเดียวโดยให้ยามาโมโตะ,โกคุเดระ และเบียงกี้ไปด้วย แต่ถึงอย่างไร พวกสึนะก็ไปที่โกคุโยแลนด์ เพื่อปะทะกับมุคุโร่ พวกสึนะได้ปะทะกับนักฆ่าทั้งหมด โดยยามาโมโตะเจอกับเคน เบียงกี้เจอกับ M.M จนได้พบกับมุคุโร่
ในการต่อสู้ครั้งนั้น ยามาโมโตะโดนลูกเหล็ก จนสลบไป โกคุเดระบาดเจ็บ รีบอร์นจึงยิงกระสุนดับเครื่องชนนัดสุดท้ายใส่สึนะทำให้เอาชนะมาได้ชนะและรู้ว่าเป็นตัวปลอม ทันทีที่มุคุโร่ตัวปลอมกำลังจะบอกเป้าหมายของมุคุโร่ ก็โดนเข็มพิษจากจิคุสะลอบยิงใส่ จากนั้นมุคุโร่ตัวปลอมจึงบอกชื่อว่า ลันเชีย เมื่อรู้ตัวว่าไม่มีกระสุนดับเครื่องชนแล้ว มุคุโร่ตัวจริง จึงดำเนินการตามแผนที่วางไว้ สึนะจึงโกรธและบุกไปหามุคุโร่ในโกคุโยคอมเพล็กซ์
พวกสึนะได้พบกับจิคุสะแล้วโกคุเทระก็อาสาสู้ด้วยแต่แล้ว เคนก็มาช่วยจิคุสะ เมื่อโกคุเทระอยู่ในสภาวะอันตราย ฮิบาริก็เข้าไปช่วยแล้วจึงไปช่วยสึนะ จึงรวมพลังกันเพื่อสู้กับมุคุโร่แต่ฮิบาริสลบไปก่อน ในระหว่างที่สู้กันอยู่ เมื่อมุคุโร่เสียเปรียบจึงยิงปืนฆ่าตัวตาย ทันใดนั้นเอง เบียงกี้ก็ได้ฟื้นขึ้นมา แล้วเข้าทำร้ายโกคุเดระ รีบอร์นจึงรู้ว่ามุคุโร่ใช้กระสุนพิเศษที่มีชื่อว่า"กระสุนสิงสู่"ซึ่งเป็นกระสุนต้องห้าม (กระสุนพิเศษที่ทางวงการมาเฟียได้สั่งห้ามใช้เป็นอันขาด) ทำให้สามารถสิงได้ต่อเมื่อโดนหอกสามง่ามของมุคุโร่ ทำให้สึนะต้องหนีหัวซุกหัวซุน ทว่า เลออนได้ฟักออกจากดักแด้ขึ้นมาพร้อมๆกับอาวุธให้สึนะคือX-GLOVE (ดูจากภายนอกเหมือนถุงมือไหมพรมทั่วๆไป) พร้อมกระสุนเสียงบ่น จึงปะทะกับมุคุโร่อีกครั้งด้วยX-GLOVEและกระสุนเสียงบ่นที่ทำให้เข้าสู่โหมดใหม่"โหมดไฮเปอร์"จนเอาชนะมุคุโร่ได้ ส่วนมุคุโร่ถูกวีดีเซ่ คือ กลุ่มที่คอยจับตัวคนที่ทำความผิดที่กฎหมายเอาผิดไม่ได้ในวงการมาเฟียจับตัวกลับไปพร้อมกับพรรคพวก แต่ในตอนท้ายมุคุโร่ได้สิงร่างเด็กผู้ชายที่มีชื่อเล่นว่า"ม่าคุง" มุคุโร่
ภาคปะทะวาเรีย
หลังจากศึกมุคุโร่ พวกสึนะก็ต้องเผชิญกับกลุ่มวาเรีย (Varia) โดยที่สควอโล่นั้นไล่กวดบาจิลตลอดทางในญี่ปุ่น เพื่อชิงแหวนอีกครึ่งหนึ่งของวองโกเล่ และเจอกับพวกสึนะเข้า สควอโล่นั้นต้องการแหวนผู้พิทักษ์วอลโกเล่ เป็นครึ่งหนึ่งของแหวนแต่ละอัน ซึ่งสควอโล่นั้นได้แหวนของปลอมไป ส่วนของจริงนั้นอยู่กับดีโน่ พ่อของสึนะได้กระจายแหวนไปให้ทั้ง 7 คน โดยมอบแหวนแต่ละวงไปอยู่กับ
• แหวนแห่งนภา - ซาวาดะ สึนะโยชิ
• แหวนแห่งเมฆา - ฮิบาริ เคียวยะ
• แหวนแห่งอัสนี- แรมโบ้
• แหวนแห่งวายุ - โกคุเดระ ฮายาโตะ
• แหวนแห่งพิรุณ - ยามาโมโตะ ทาเคชิ
• แหวนแห่งอรุณ - ซาซางาวะ เรียวเฮ
• แหวนแห่งสายหมอก - โดคุโร โครม เป็นตัวแทนของ โรคุโด มุคุโร่

ทุกคนนั้นต้องฝึกฝนตัวเองเพื่อที่จะต่อกรกับกลุ่มวาเรียที่กำลังจะรู้ความจริงเรื่องแหวน และจะมาญี่ปุ่นในไม่ช้า รีบอร์นได้จัดครูฝึกของทุกคนไว้ ยกเว้นโครมและแรมโบ้ที่เพิ่งพบว่ามีแหวนอยู่ภายหลัง โดยที่รีบอร์นจัดครูสอนพิเศษไว้ ดังนี้
• ซาวาดะ สึนะโยชิ - รีบอร์น
• ฮิบาริ เคียวยะ - ดีโน่
• โกคุเดระ ฮายาโตะ - ดร. ชามาล
• ยามาโมโตะ ทาเคชิ - พ่อยามาโมโตะ
• ซาซางาวะ เรียวเฮ - โคโรเนโร่

สึนะนั้นเพิ่งรู้ว่าแหวนแห่งอัสนีนั้นอยู่กับแรมโบ้ ระหว่างที่แรมโบ้นั้นถูกหมายหัวโดยเลวี่หนึ่งในวาเรีย พวกวาเรียนั้นมาถึงญี่ปุ่นก่อนกำหนด และทุกคนนั้นถูกจัดการต่อสู้ตัวต่อตัวระหว่างผู้พิทักษ์ที่มีแหวนเหมือนกัน โดยแต่ละคืนนั้นจะมีหนึ่งศึก โดยมีลำดับดังนี้
• ศึกแห่งอรุณ ระหว่าง ซาซางาวะ เรียวเฮ ปะทะ ลุสซูเรีย (ชนะ)
เวทีนั้นคือสนามประตูโรงเรียนที่ถูกจัดเป็นเวทีมวย ลุซซูเรียชอบใจเรียวเฮ แต่เขาต้องการที่จะให้สิ่งที่ชอบเป็นศพแล้วเก็บเอาไว้ในคอลเล็คชั่นส่วนตัวของเขา[เอาไปสตัฟ!!!]
• ศึกแห่งอัสนี แรมโบ้ ปะทะ เลวี่ อาแทน (แพ้)
เวทีนั้นอยู่บนดาดฟ้าโรงเรียน โดยที่มีพายุฟ้าผ่า แถมสายล่อฟ้าตั้งสูง แรมโบ้นั้นได้เรียกตัวเองจาก 20 ปีข้างหน้ามาสู้ แต่หมดเวลาของกระสุน บาซูก้าทศวรรษเสียก่อน จึงทำให้เลวี่ได้โอกาสโจมตีแรมโบ้อย่างรุนแรง แต่สึนะมาช่วยไว้ ทว่า ต้องถูกปรับแพ้เพราะสึนะเข้ามาช่วย
• ศึกแห่งวายุ โกคุเดระ ฮายาโตะ ปะทะ เบลเฟกอล (แพ้)
เวทีอยู่ในอาคารโรงเรียนตึก A ที่มีลมพายุที่เกิดจากเครื่อง พร้อมระเบิดเวลา ระหว่างที่สู้เบลเฟกอลได้เห็นเลือดตัวเองจะกลายเป็นเหมือนกับคนบ้าและเก่งขึ้นด้วย โกคุเดระจึงได้ละทิ้งแหวน เพื่อหนีเอาชีวิตรอดหลังจากที่ระเบิดเวลาใกล้มาถึงตัวของเขาแล้ว
• ศึกแห่งพิรุณ ยามาโมโตะ ทาเคชิ ปะทะ สเปลฮี สควอโล่ (ชนะ)
ภายในอาคาร ตึก B โดยที่ตึกโดนทุบจนแหลก แล้วมีน้ำไหลลงมาจากแท้งค์น้ำที่อยู่ข้างบนโดยที่ระหว่างที่สู้ยามาโมโตะได้รู้ว่าสควอโล่เคยถล่มสำนักชิงุเระโซเอนมาแล้ว แต่สควอโล่นั้นไม่สามารถมองเพลงดาบชิงุเระโซเอนท่าที่ 8 (พิรุณกระหน่ำแทง) โดยคิดว่าเป็น ฝนใบไม้ร่วง และก็ถูกปราบด้วยเพลงดาบชิงุเระโซเอนท่าที่ 9 (ฝนสะท้อนเงา) ซึ่งเป็นท่าที่คิดค้นด้วยตัวเอง และโดนฉลามกิน (แต่ยังไม่ตาย)
• ศึกแห่งสายหมอก โครม โรคุโด ปะทะ มาม่อน [ไวเปอร์] (ชนะ)
ภายในโรงยิม ที่ไม่มีอะไรพิเศษ มามอนได้ใช้พลังปลดผนึกจุกนมขึ้นมากลายเป็น อัลโกบาเลโน่ ไวเปอร์ แล้วใช้พลังของตนเองโจมตีโครม จนหอกสามง่ามของโครมหัก จนโครมสลบไป และท้องก็ยุบลงไปเรื่อยๆ ขณะที่โครมกำลังแย่ มุคุโร่นั้นจึงมาสลับเปลี่ยนกับโครม แล้วใช้พลังของตนเองที่ได้มาจากในนรกจัดการกับไวเปอร์
• ศึกแห่งเมฆา ฮิบาริ เคียวยะ ปะทะ โกล่า มอสก้า (ชนะ)
สนามโรงเรียนที่เต็มไปด้วยกับระเบิด และถูกยิงโดยปืนกลจากด้านนอก ฮิบาริชนะด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว แล้วจึงท้าสู้กับ XANXUS ในระหว่างที่สู้กับ XANXUS มอสก้าก็เกิดบ้าคลั่ง สึนะต้องหยุดมัน แต่ว่ารุ่นที่ 9 ตัวจริงนั้นถูกจับไว้อยู่ข้างใน ในสภาพที่เกือบตาย
• ศึกแห่งนภา ซาวาดะ สึนะโยชิ ปะทะ Xanxus (ชนะ)
ทั่วโรงเรียน โดยต้องช่วยผู้พิทักษ์ของตัวเองทั้งหมดก่อนครึ่งชั่วโมง โดย Xanxus ใช้ความสามารถของรุ่นที่ 2 และอาวุธของรุ่นที่ 7 ส่วนสึนะได้สำเร็จท่าใหม่ เดือดทะลุจุดศูนย์ ของรุ่นที่ 1 และได้คิดค้น เดือดทะลุจุดศูนย์ฉบับดัดแปลง ที่ดูดพลังไฟดับเครื่องชนของคู่ต่อสู้ได้ หลังจากนั้นสึนะก็สามารถใช้ เดือดทะลุจุดศูนย์แบบต้นตำรับ ที่ทำให้แช่แข็งศัตรูได้
หลังจากที่สึนะชนะ Xanxus แล้วก็ได้รู้ว่าแผลของ Xanxus เกิดจากที่วองโกเล่รุ่นที่ 9 ใช้เดือดทะลุจุดศูนย์ แช่แข็ง และได้รู้อีกว่า Xanxus ไม่ใช่ลูกแท้ๆของรุ่นที่ 9 แค่เป็นเด็กฝากมาเลี้ยงเท่านั้น จากนั้นเบลเฟกอลและมาม่อนได้เรียกกลุ่มวาเรียที่เหลือมาช่วย แต่ว่าถูกลันเซียกำจัดหมด และผู้พิทักษ์ของสึนะทุกคนก็ได้แหวนไป
ปฐมบท The Future
รีบอร์นถูกนำตัวสู่อนาคตด้วยบาซูก้าทศวรรษ และยังไม่กลับสู่สภาพเดิม สึนะจึงให้แรมโบ้ยิงบาซูก้าใส่ตัวเองเพื่อเรียกแรมโบ้หนุ่มในอีก 10 ปีข้างหน้าเพื่อสอบถาม แต่แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดฝัน สึนะโดนบาซูก้าและถูกส่งไปในอีก 10 ข้างหน้าได้ทราบข้อมูลที่น่าตกใจยิ่ง เพราะตนเองถูกลอบสังหารเสียชีวิตไปแล้วพร้อมทั้งยังทำลายแหวนวองโกเล่ จากปากของ รัล มิลจิ หนึ่งใน อัลบาโกโล่แน่ เด็กต้องสาป โดยฐานทัพของวองโกแรลนั้นถูกย้ายศูนย์บัญชาการลงใต้ดินหลังจาก มิลฟีโอเล่แฟมิลี่ถล่ม โดยผู้บรรชาการคือเบียกคุรัน วองโกเล่รุ่นที่9 หายสาบสูญโดยมีคำสั่งสุดท้ายให้ รวบรวมผู้พิทักษ์ทั้ง 6 คน กระจัดกระจายมารวมตัวกันเพื่อหยุดแผนการสร้างโลกใหม่ด้วยการนำแหวนวองโกแรลในอดีตและนำอัลบาโกโล่เน่กลับมาด้วย เพื่อรวมกับแหวนทั้งหมดของมิลฟิโอเร่ เป็น ทูรินิเซนต์ 7³
[แก้] The Future ภาคกลาง x-burn
หลังจากได้รับสารลับให้รวบรวม บรรดาผู้พิทักษ์ทั้ง 6 กลับมาได้แล้วนั้นต้องสุ้กับบรรดานักรบบุปผาอาลัย ตัวปลอมทั้ง 6 คนโดยเป้าหมายนั้นคือ ทำการสอบสวนโชอิจิผู้พัฒนาระบบการเคลื่อนย้ายผ่านบาซูก้าทศวรรษ โดยสึนะและบรรดาผู้พิทักษ์ฝึกใช้กล่องเพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างคล่องแคล่วจำเป็นต้องควบคุมความสามารถและการใช้งานให้ได้ก่อนโดย ในการฝึกแรกสึนะ บอสวองโกแรลรุ่นที่ 10 ได้รับการพัฒนาฝีมือและความสามารถด้วยการรับสัญลักษณ์แห่งวองโกเล่ โดยสามารถพัฒนา X Glove ให้กลายเป็น V.ver หลังจากฝึกเสร็จพวกสึนะได้รับคำสั่งให้บุกฐานทัพเมโลเน่ที่ญี่ปุ่นสึนะได้รับ MicroVR และ MRcontacs เลนส์ที่พัฒนาให้สามารถเชื่อมความสามารถระหว่าง X Burner V.ver และ Headphone จาก สปาน่าให้ใช้งานได้เต็ม 100 เปอร์เซ็น
The Future ภาคท้าย x-burn
หลังจากเตรียมความพร้อมในการรบกับมิฟิโอเล่แล้ว สึนะได้รับแผนการในการบุกจากสปาน่า ที่รับคำสั่งจาก อิริเอะให้หักหลัง มิฟิโอเร่ โดยมอบทั้งแผนที่และยุทธการและการรบทั้งหมดให้กับสปาน่า แต่ตนเองทำเป็นคุมสถานการณ์ได้ โดยเมื่อเข้ามาในฐานทัพได้แล้วกลับกลายเป็นอาวุธกล่องขนาดใหญ่ที่เรียกว่าบล็อกฐานทัพ โดยมีผู้ใช้งานคือ อิริเอะ ไอริสและ Ginger Bread บุกเข้าไปในห้องทำงานและแล็บต่างๆของสปาน่าเพื่อตามหาสึนะและสปาน่า สุดท้ายก็หาจนพบและได้ต่อสู้กับสึนะ โดยครั้งนี้สึนะได้ใช้ Contacts ซึ่งสปาน่าเป็นผู้สร้างให้ เพื่อพัฒนา X-Burner ให้ถึงขีดสุด Contactsทำหน้าที่ควบคุมเปลวไฟสองข้างให้เท่ากัน สึนะได้ใช้ X-Burner อย่างสมบูรณ์แบบ และซึนะก็ชนะ หลังจากนั้นอัศวินมายาก็ปรากฏตัว ซึ่งสึนะได้ใช้ X-Burner ใส่แต่ไม่เป็นอะไร และเมื่อต่อสู้กันได้ไม่นานอัศวินมายากันได้แปลงร่างออกมา แต่ก็พ่ายแพ้ให้X-Burnerของสึนะอยู่ดี เมื่อสึนะบุกถึงระบบกลางได้แล้ว อิริเอะได้บอกความจริงที่ว่า ตนเองเป็นฝ่าย วองโกเล่ แล้วพวกสึนะก็ได้รู้ความจริงว่า คนที่ส่งพวกเขาทุกคนมายังยุคนี้คือตัวของสึนะในยุคนี้นั่นเอง ซึ่งแผนการนี้เป็นความลับที่รู้กันเฉพาะอิริเอะ โชอิจิ สึนะ และฮิบาริในยุคนี้เท่านั้น
ภาค Choice
หลังจากนั้น เบียคุรันได้ออกมาบอกกับสึนะว่า หกบุปผาที่ครอบครองแหวนมาเล่และแหวนมาเล่ทั้งหกวงนั้นเป็นของปลอม และได้ประกาศศึกอย่างเป็นทางการกับสึนะโยชิ และให้เวลาพวกสึนะไปฝึกฝนตนเอง โดยได้ให้คำใบ้เป็นเกมที่เคยเล่นกับโชอิจิในสมัยก่อน จากนั้น โชอิจิและสปาน่าได้เข้ามาอยู่ในวองโกเล่ตามคำเชิญของรีบอร์นและสึนะ ทั้งสองช่วยกันจัดการฐานทัพมาเล่ที่ญี่ปุ่น ทางด้านพวกสึนะที่ได้หยุดพัก ก็ไปเยี่ยมโรงเรียนของตนเอง ที่โรงเรียนนามิโมริซึ่งสภาพเหมือนเดิมทุกประการ ฮิบาริได้พบกับดีโน่บนดาดฟ้าของอาคารเรียน ส่วนจางนีนิก็ได้ผลิตอาวุธชิ้นใหม่ให้สึนะคือมอเตอร์ไซค์พลังงานดับเครื่องชน เพื่อใช้ในการแข่งChioce Warกับเบียคุรัน โดยวองโกเล่ได้ลงแบบสุ่มตัวแทนได้แก่ สึนะ โกคุเดระ ยามาโมโตะ อิริเอะเละสปาน่า ทางฝ่าย 6 บุปผาอาลัยได้ส่งตัวแทนคือ เดซี่ (อรุณ) คิกเคียว (เมฆา) โทริคาบูโตะ (สายหมอก) และอัศวินมายา ในระหว่างการต่อสู้ อัศวินมายาถูกสังหารโดยคิกเคียว (ตาย) ฝ่ายวองโกเล่เป็นฝ่ายแพ้ อิริเอะได้เปิดเผยความสามารถของเบียกคุรัน ทันใดนั้น ยูนิก็เดินมาขอให้เบียกคุรันถือผลการแข่งขันว่าเป็นโมฆะและจะลาออกจากมิลฟีโอเล่ แต่เบียคุรันไม่ยอม ขู่จะทำร้ายยูนิ แต่ว่ามุคุโร่ก็มาปกป้องยูนิและบอกว่าตัวเองนั้นยังไม่ตาย และยังติดอยู่ในคุกวินดิเช่ และรีบบอกให้สึนะพายูนิหนีไปที่เมืองนามิโมริ เมื่อมาถึงนามิโมริแล้ว 6 บุปผาอาลัย ได้ตามมาที่เมืองนามิโมริ ฮิบาริ ดีโน่ในอนาคต โรมาริโอ และคุซาคาเบะได้ไปรอศัตรูที่โรงเรียนนามิโมริ และเดซี่แปลงเป็นจิ้งจกอรุณ งอกแขนขาได้ ดีโน่แพ้ แต่ถูกจัดการโดยฮิบาริโดยอาวุธกล่อง วองโกเล่ กุญแจมืออารันดันดี คนอื่นรออยู่ที่ฐานทัพลับ ทันใดนั้นแผ่นดินก็สั่นสะเทือนพร้อมกับการปรากฏตัวของซาคุโร่วายุ
ภาค Future Battle (ศึกตัดสินชี้ชะตาอนาคต)
ซาคุโร่เข้ามาชิงตัวยูนิในฐานทัพวองโกเล่และเยาะเย้ยดูถูกพวกของสึนะ จนยามาโมโตะ และโกคุเดระทนไม่ไหวจึงจะเข้าไปสู้ แต่สควอโล่มาขวางไว้และบอกว่าจะเป็นคนไปสู้เอง และบอกให้พวกสึนะพายูนิหนีไปสึนะและพวกจึงคิดว่าจะหนีไปซ่อนที่ไหน และแล้วฮารุก็บอกว่าให้ไปที่ร้านอาหาร เพราะฮารุรู้จักกับคนในร้าน ในขณะที่กำลังจะไปเสียงร้องของสควอโล่ก็ดังขึ้น พวกสึนะจึงหันกลับไปมอง ปรากฏว่าสควอโล่บาดเจ็บสาหัส แขนขาดไปหนึ่งข้าง และฐานวองโกเล่ก็พังยับเยินด้วยฝีมือของ ซาคุโร่ สควอโล่บอกให้พวกสึนะไปโดยเร็วที่สุด พวกสึนะจึงมุ่งหน้าไปที่ร้านอาหาร เมื่อไปถึงกลับพบว่าร้านปิด จึงตะโกนเรียกทันใดนั้นก็มีชายลึกลับใส่แว่นกำลังโซ้ยราเม็งชื่อคาวาฮิระ ออกมาบอกว่าเจ้าของร้านเสียไปแล้ว และ ก็บอกกับพวกสึนะว่าให้เข้ามาหลบก่อน คาวาฮิระช่วยไล่ซาคุโร่ไปยังภูเขาไฟฟูจิ และหลังจากนั้นคาวาฮิระก็ได้ให้พวกสึนะฝากร้านไว้ แต่กลับโดนโทริคาบูโตะสลับตัวกับแรมโบ้เพื่อชิงตัวยูนิ แต่แกมม่ามาช่วยทัน โทริคาบุโตะแปลงเป็น ไนท์เบน ผีเสื้อกลางคืนสายหมอก สึนะกำลังลำบาก โคลมเปิดกล่องวองโกเล่เอาเลนส์ปีศาจ ดี.สเปเด้มาใช้ สุดท้ายโทริคาบูโตะก็พ่ายแพ้ต่อ X-Burner ของสึนะและถอยทัพไป ทางด้านเบียกคุรันที่นอนซมไข้เพราะใช้วิชามองอนาคตตามหายูนิก็กำลังให้ ไอริสจัดการเรื่องบุปผาอาลัยคนที่ 6 ที่อยู่ในคุกวินดิเช่ซึ่งชื่อ โกสต์ ที่คุกวินดิเช่ ฟรานได้ปลอมตัวเป็นไอริสแล้วแล้วขออนุญาต โรคุโด มุคุโร่ และได้เจอกับเคน จิคุสะและ M.M พวกสึนะได้เดินทางกลับไปที่ป่าที่มีโลงศพของสึนะ และได้พักแรมที่นั่น แกมม่า โนซารุและทาซารุได้มีปากเสียงกับโกคุเดระและอิริเอะ โชอิจิ แต่ยูนิมาห้ามไว้แล้วเล่าเรื่องความสามารถของตนที่ได้รับสืบทอดมาจากลูเช่หรือคุณยายของยูนิ รัล มิลจิ ได้บอกความจริงว่าอัลโกบาเลโน่แห่งนภาจะมีอายุสั้น (เป็นสาเหตให้ลูเช่ อาเรีย ได้ป่วยและเสียชีวิต) และยิ่งอายุมากขึ้นความสามารถพิเศษจะยิ่งเสื่อมไป แต่ยูนิได้บอกกับทุกคนว่าเธอรู้มานานแล้วว่าพวกเธอจะต้องเผชิญหน้ากับเบียคุรันในวันรุ่งขึ้น และในวันรุ่งขึ้นวองโกเลแบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่ม ที่ 1 ดักอยู่ริมทะเลสาบ กลุ่มที่ 2 ดักอยู่ที่ป่า และกลุ่มที่3 เป็นกองกำลังปกป้องยูนิ กลุ่มแรกเรียวเฮ แรมโบ้ได้เจอกับคิเคียว(เมฆา) และคิเคียวก็ได้ใช้กล่องแร็พเตอร์ลงมือทำร้ายกลุ่มหนึ่งก่อน พอเห็นแรมโบ้ดูเหมือนจุดอ่อนจึงให้ฝูงแรพเตอร์เล็งไปที่แรมโบ้ เรียวเฮจึงงัดทีเด็ดโดยพูดให้แรมโบ้คิดถึงแม่ของสึนะ ด้วยความคิดถึงแม่ของสึนะแรมโบ้ร่างเด็กได้จุดไฟอัสนีที่แหวนขึ้นโดยไม่รู้ตัวและเปิดกล่อง BOX Vongola ได้มีกระทิงอัสนีออกมาและคอมบิโอฟอมาร์เป็นเกราะอัศนี จัดการฝูงแรพเตอร์จนหมดแล้วต่อมาพวกวาเรียและพวกของโรคุโด มุคุโร่ได้เดินทางมาที่นามิโมริซันซัสได้จัดการคิกเคียว(ไม่ตาย) จากนั้นโกส(ธาตุ อัสนีของมิลฟีโอเล่) ก็ ปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนและได้ดูดพลังไฟดับเครื่องชนของกลุ่ม1และ2ไปจนหมดรวมทั้นซันซัสด้วย จากนั้นรีบอร์นบอกสึนะให้ไปช่วย (ที่จริงโกสเป็นแค่กลุ่มก้อนไฟเท่านั้น)สึนะจนใช้วิชา เดือดทะลุจุดศูนย์ดัดแปลง ศึกครั้งนี้เป็นศึกดูดพลัง และแล้วโกสก็สลายไป จากนั้นก็มาถึงจุดวิกฤตสุดๆ คือ เบียคุรันปรากฏตัวสึนะได้สู้กับเบียคุรันแต่สู้ไม่ได้ รุ่นที่1 จึงปลดปล่อยพลังของสึนะๆจึงมีพลังของแหวนให้ และยูนิกับแกมม่าจะยอมสละชีพเพื่อคืนชีพให้กับอัลโกบาเลโน่ทั้งหมด สึนะจึงใช้ x-burner สังหารเบียคุรัน ศึกครั้งนี้เบียคุรันตาย ยูนิและแกมม่าได้สละชีวิตเป็นที่เสียใจของทุกคน แล้วทุกคนก็ได้กลับอดีต
[แก้] ภาคสืบทอดมรดก
หลังจากกลับมาจากโลกอนาคตรีบอร์นได้รับจดหมายจากรุ่นที่ 9 เกี่ยวกับการสืบทอดมรดกของวองโกเล่แฟมิลี่เพื่อให้สึนะเป็นบอสวองโกเล่รุ่นที่ 10อย่างเป็นทางการ แล้วก็มีนักเรียนใหม่เข้ามาจากการเกิดแผ่นดินไหวขึ้น ทำให้นักเรียนโรงเรียนมัธยมชิม่อน ย้ายมาที่โรงเรียนนามิโมริ ระหว่างทางที่สึนะไปโรงเรียน ได้พบกับนักเรียนหญิงปี 3 โรงเรียนชิม่อนเข้า เธอส่งสายตาอันหน้ากลัวให้สึนะ สึนะจึงหลบไปทางอื่น ระหว่างก็เจอรีบอร์น รีบอร์นบอกว่าเป็นการสืบทอดบอสวองโกเล่อย่างเป็นทางการ เมื่อถึงโรงเรียนก็ได้คุยกับทุกคน มีนักเรียนใหม่มาจำนวน7คนย้ายมาจากโรงเรียนชิม่อน แล้วมีมาในห้องของสึนะ(ห้อง 2-A) 2 คนคือ ชิทท์ พี เธอทำตัวแปลกๆ จนโกคุเดระคลั่งหนักว่าเป็นตัวประหลาด(U.M.A.)อีกคนคือ โคซาโตะ เอนมะ เป็นคนเงียบๆไม่ค่อยเข้ากับใครเหมือนสึนะตอนก่อน ทางด้านท่านฮิบาริ ได้มีนักเรียนชิม่อนมาหา เธอชื่อ ซูซูกิ อคีลไฮค์ มาเป็นคณะกรรมการชำระบัญชี มาข่มขู่ท่านฮิบาริ หลังเลิกเรียนสึนะกับรีบอร์นได้เจอกับ โคซาโตะ เอนมะ ขณะโดนทำร้าย รีบอร์นจึงถีบส่งไปช่วย ผลคือเละ ขณะที่สึนะช่วยเก็บของให้แหวนของทั้งสองก็ส่องแสงออกมา หลังจากนั้นสึนะเห็นเอนมะทำสมุดตกไว้ เลยจะเอาไปคืนก็เจอเอนมะนั่งอยู่ที่ริมแม่น้ำ กำลังเย็บกางเกงที่ขาดอยู่ พอเห็นสึนะก็ตกใจตกน้ำไป สึนะก็เลยชวนเอนมะไปที่บ้านของสึนะ กางเกงของเอนมะที่ขาดตอนถูกทำร้าย แม่ของสึนะก็เย็บให้ วันต่อมาสึนะได้เดินมาโรงเรียนก็เจอเอนมะ ก็เลยเดินมาโรงเรียนพร้อมกัน ก็พบเห็นว่าบนดาดฟ้าของโรงเรียนมีอดีลไฮค์กับฮิบาริสู้กันอยู่ สึนะเลยรีบขึ้นไปบนดาดฟ้า ก็พบว่านักเรียนที่ย้ายมาใหม่ทั้ง 7 คนมารวมตัวอยู่ที่บนดาดฟ้า สึนะพยายามห้ามไม่ให้ฮิบาริกับอดีลไฮค์สู้กัน รีบอร์นก็เลยถีบส่งสึนะไปขวางการต่อสู้ และบอกว่านักเรียนที่มาจากชิม่อนเป็นแขกของวองโกเล่ พวกเขามาจากชิม่อนแฟมิลี่ที่ถูกวองโกเล่เชิญมา เพื่อการสืบทอดมรดกของวองโกเล่ในอีก 7 วัน การสืบทอดมรดกของวองโกเล่นั้น ก็มีพวกที่ไม่เป้นพันธมิตรกับวองโกเล่จะมาก่อกวนคือพวกสายลม ระหว่างนั้นก็มีพวกมาเฟียว่าจ้างมาทำร้ายสึนะ สึนะก็ใช้โหมดไฮเปอร์ครั้งแรกหลังจากกลับมาจากอนาคตจัดการได้ และเมื่อโกคุเดระทราบข่าวจึงเรียกรวมตัวชิม่อนแฟมิลี่กับวองโกเล่ เพื่อให้ทุกคนช่วยคุมกันสึนะจากพวกก่อกวนพิธีสืบทอด แต่ทางชิม่อนขอลองไปคุยกับพวกที่ยังไม่ได้มาก่อน รีบอร์นก็คิดว่ามีบางอย่างเกี่ยวกับชิม่อน ถ้าได้ร่วมงานกันอาจจะได้รู้ก็ได้ ทางบ้านพักของชิม่อนหลังจากปรึกษากันแล้วตกลงจะปกป้องวองโกเล่ เพราะไม่ได้เป็นผลเสียกับทางชิม่อน แล้วอดีลไฮค์ก็ถามทุกคนในแฟมิลี่ว่า ทุกคนยังเก็บสิ่งนั้นไว้อย่างดีใช่มั้ย แล้วก็ขอดูของเอนมะ และบอกว่าดีมากนี่นะเป็นหลักฐานยืนยันการสืบทอดของเอนมะในฐานะบอสของชิม่อนแฟมิลี่ เอนมะและคนอื่นๆในชิม่อน หรือว่าความจริงแล้วจะไม่ใช่แฟมิลี่อ่อนแอกันแน่ ที่จริงรีบอร์นได้สงสัยตั้งแต่ ที่พวกชิม่อนรวมตัว สึนะได้ขอปฏิเศษเป็นบอส แต่ได้รับข่าวร้ายว่า ยามาโมโตะถูกทำร้ายอาการสาหัส โดยเหลือข้อความว่า SIN ในภาษาอิตาลี่ไว้ ซึ่ง SIN ในที่นี้หมายถึงสิ่งที่ใครได้รับแล้วจะได้เป็นผู้สืบทอด รีบอร์นจึงรู้ว่าเกี่ยวกับพิธีสืบทอมมรดกของวองโกเล่แฟมิลี่ รีบอร์นบอกว่า ถ้าจะหาตัวคนร้าย ต้องมีพิธีสืบทอด สึนะจึงได้ไปบอกรุ่นที่ 9 ว่าจะไปพิธีสืบทอดมรดก ในวันสืบทอดมรดกต้องมีผู้พิทักษ์ของวองโกเล่ครบทั้งหมด 7 คน ซึ่งยามาโมโตะมาไม่ได้เพราะเท่าที่ดูอาการแล้วหมอบอกว่าถึงรอดก็มีโอกาศสูงที่จะเดินไม่ได้ ทั้งนี้จึงต้องพึ่งภาพลวงตาที่แข็งแกร่งของ โครม โดคุโร่ ช่วย ทุกคนในพิธีรับมรดกนึกว่าเป็นยามาโมโตะตัวจริง ยกเว้น ดิโน่ และ สควาโร่ ทีรู้จากการถามคำถามของสควาโร่แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ในขนาดที่สึนะได้ทำการพูดคุยกับแขกที่มาร่วมงานก็ได้ไปเห็นยามกำลังรุมซ้อมใครบางคนอยุ่สึนะจึงรีบไปดู สิ่งที่สึนะเห็นคือ เอนมะ และคนอื่นๆในชิมอนแฟมิลี่กำลังถูกยามซ้อมและดูถูกอยู่จึงรีบไปช่วย พวกชิม่อนแฟมิลี่ดูจะตกใจที่เห็นยามาโมโตะเพราะเป็นคนที่โจมตียามาโมโตะเอง เมื่อถึงเวลารับมรดกพวกสึนะได้รอการจู่โจมของผู้ที่ทำร้ายยามาโมโตะ ทันทีที่เปิดกล่องและเอา SIN ออกมาก็ได้เกิดระเบิดขึ้นภายในพิธี และ กล่องเลือด หรือ SIN ก็แตกออก แต่สีหน้ารุ่นที่ 9 ไม่ได้แสดงความรู้ว่าตกใจแถทยังยิ้มอีกนิดๆ และได้บอกสึนะว่า SIN ของจริงอยู่เซฟที่คลุมไปด้วยโล่ที่ห่อหุ้มด้วยเปลวไฟของผู้พิทักษ์ทั้ง 7 ของรุ่นที่ 9 อยู่ และรุ่นที่ 9 ยังบอกอีกว่าไม่ว่าอาวุธอะไรหรือเปลวไฟอะไรก็ไม่สามารถทำลายได้ แต่มันไม่เป็นไปตามปผนของรุ่นที่ 9 เมื่อหัวไปเห็นว่าเซฟถูกทำลายแล้ว SIN ข้างในก็หายไป ผู้พิทักษ์ทั้ง 7 ของรุ่นที่ 9 จึงพยายามหาทิศว่าศัตรูอยู่ตรงไหนแต่เมื่อเจอแล้วอาวุธ และ บาเรีย ของผู้พิทักษ์ทั้ง 7 ของรุ่นที่ 9 ก็โดนทำลายทิ้ง คนที่โผล่ขึ้นมากลับเป็นพวก ชิม่อน แฟมิลี่ ทั้งนี้ทำให้สึนะรู้ว่าคนที่ทำร้ายยามาโมโตะคือผู้พิทักษ์แห่ง พิรุณ ของ ชิม่อน แฟมิลี่ ทำให้สึนะโกรธมากและสู้กับเอนมะ

ภาคพิเศษ อัลโกบาเลโน่
หลังจากจบศึกที่ฐานทัพเมโลเน่ สึนะได้รับกล่อง Vongola มาแต่ไม่สามารถใช้มันได้ อิริเอะ โชอิจิบอกกับเขาว่า การที่จะเปิดกล่องได้ จำเป็นจะต้องกลับไปยังอดีตเมื่อ 10 ปีก่อนเป็นเวลา 1 อาทิตย์เพื่อรับการทดสอบจากอัลโกบาเรโน่ทั้ง 7 โดยการกลับไปของพวกเขาเป็นการชั่วคราวนั้น ในโลกในอดีต พวกเขาหายไปเพียงแค่สามวันเท่านั้น และอิริเอะก็ได้บอกให้พวกเขาสร้างเรื่องว่า ไปปิคนิคกันและหลงทาง เมื่อทุกคนกลับไปอดีต ก็เป็นเวลาเดียวกับที่อัลโกบาเรโน่ทั้งเจ็ดมุ่งหน้าไปญี่ปุ่น รีบอร์นได้เล่ารายละเอียดคร่าวๆของอัลโกบาเรโน่แต่ละคนให้พวกสึนะฟัง อัลโกบาเรโน่ทั้งเจ็ดประกอบด้วย
1. โคโรเนโร่ ผู้ครอบครองจุกนมธาตุพิรุณ อดีตหัวหน้าหน่วยคอมมุสบินของอิตาลี มีอาวุธคือปืนไรเฟิล
2. สกัล (หรือสคัล) ผู้ครอบครองจุกนมธาตุเมฆา สตั๊นท์แมนผู้ได้รับฉายาว่า สกัลอมตะ
3. เวลเด้ ผู้ครอบครองจุกนมธาตุอัสนี นักวิทยาศาตร์อัจฉริยะ ผู้สร้างกล่อง (ร่วมกับ เคนิตฮ์ และ อิโนเซนตี้) ในอีกสิบปี
4. ไวเปอร์ (มาม่อน) ผู้ครอบครองจุกนมธาตุสายหมอก เป็นอัลโกบาเลโน่ที่ยังไม่ปรากฏเพศออกมาชัดเจน สามารถสร้างภาพมายาให้กลายเป็นจริง และทำให้สิ่งที่มีจริงกลายเป็นภาพมายาได้
5. ฟง ผู้ครอบครองจุกนมธาตุวายุ นักสู้อัจฉริยะอันดับหนึ่งของการแข่งขันกังฟูทัวร์นาเม้นท์ของจีน หน้าตาและทรงผมเหมือน ฮิบาริ เคียวยะ แต่มีเปียยาวด้านหลัง เป็นอาจารย์ของอี้ผิง
6. รีบอร์น ผู้ครอบครองจุกนมธาตุอรุณ เป็นนักฆ่าที่เก่งที่สุดในหมู่มาเฟีย
7. อาเรีย (แม่ของยูนิ) (มาแทนลูเช่เพราะหายสาบสูญ) (ลูเช่เป็นยายของยูนิ) ผู้ครอบครองจุกนมธาตุนภา เป็นหัวหน้าของอัลโกบาเลโน่ แม่ของรองหัวหน้ามิลฟีโอเล่แฟมิลี่ ยูนิ ในภาคพิเศษอัลโกบาเลโน่จะเป็นอาเรียซะส่วนใหญ่ จะมีพูดถึงลูเช่ช่วงย้อนความก่อนเป็นอัลโกบาเลโน่
การทดสอบครั้งแรก : การทดสอบของโคโรเนโร่ ฝึกทดสอบด้านการต่อสู้ โดยจะต้องหยิบเข็มกลัดที่มีเลข01จากผ้าโพกหัวของโคโรเนโร่ให้ได้
การทดสอบครั้งที่สอง : การทดสอบของสกัล ทดสอบในด้านสเน่ห์ จะต้องพยายามหยุดการต่อสู้กันระหว่างโรคุโด มุคุโร่ กับ ฮิบาริ เคียวยะให้ได้
การทดสอบครั้งที่สาม: การทดสอบของมาม่อน (ไวเปอร์) ฝึกเกี่ยวกับ ความสามารถในการดัดแปลงและด้านปัญญา โดยจะให้ตอบคำถามเกี่ยวกับสถานที่ในนามิโมริเมื่อเจอคำตอบจะต้องทำภารกิจที่มาม่อนบอก ซึ่งภารกิจคือ เอาตัวรอดจากมาม่อนโดยใช้อาวุธกล่องทั้ง 3
การทดสอบครั้งที่สี่ : การทดสอบของฟง ทดสอบด้านความเป็นผู้นำ โดยจะต้องไล่จับฟงในโรงเรียนภายในเวลา30นาทีให้ได้ ผู้เข้าร่วมการทดสอบมีทั้งหมด3คน ได้แก่ ซาวาดะ สึนะโยชิ,แรมโบ้,มิอุระ ฮารุและอี้ผิงที่ปรากฏตัวภายหลังได้เข้ามาช่วยไว้ ในช่วงแรกๆของการทดสอบ เหล่าทุกคนได้พยายามไล่จับฟงอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่กลับจับตัวฟงไม่ได้เลยแม้แต่น้อย แม้ว่าทั้งหมดจะใช้อาวุธไล่โจมตีฟงเพื่อให้ฟงต้องหยุดก็ตาม จนผู้ทดสอบทั้งหมดเริ่มท้อกับการทดสอบ สึนะจึงปลอบใจ และเพิ่มกำลังใจผู้เข้าร่วมการทดสอบคนอื่นๆ และเริ่มใช้กลยุทธ์
การทดสอบครั้งที่ห้า : การทดสอบของอาเรีย ทดสอบด้านความอดทนในการยอมรับความเห็นผู้อื่น โดยสึนะจะต้องคอยทำตามคำขอร้องของอาเรียไปเรื่อยๆโดยที่เขาไม่รู้ตัวเลยว่า เธอเป็นอัลโกบาเรโน่หรือเปล่า
การทดสอบครั้งที่หก : การทดสอบของรีบอร์น ทดสอบด้านความสามัคคีของบอส โดยจะต้องต่อสู้กับรีบอร์นแบบ7ต่อ1 (ผู้พิทักษ์ทั้ง6และหัวหน้า VS รีบอร์น) โดยที่สี่คน(โกคุเดระ ฮายาโตะ,ยามาโมโตะ ทาเคชิ,โคลม โดคุโร่,และซาซางะวะ เรียวเฮย์)ล้วนแต่ใจอ่อนต่อรีบอร์น จึงไม่กล้าทำร้ายรีบอร์นเท่าไรนักมีเพียง ฮิบาริ เคียวยะ ที่สนุกกับการต่อสู้นี้ และในขณะที่รีบอร์นจริงจังกับการต่อสู้มาก จนทำให้ผู้พิทักษ์ทั้งห้าหมดสติลงอย่างรวดเร็ว ส่วนแรมโบ้ ก็ได้แต่นอนอย่างไม่รู้เรื่องอะไรลย จนทำให้เหลือสึนะเพียงคนเดียว จึงกลายเป็นการต่อสู้ระหว่างสึนะกับรีบอร์น ในช่วงท้ายๆของการทดสอบ รีบอร์นออมมือให้สึนะเล็กน้อย จนสึนะได้โอกาสยิงX-Burner Air แต่ว่า เพราะสึนะไม่กล้าทำร้ายรีบอร์นมากไปกว่านี้ สึนะจึงหยุดยิงX-Burner Airจนทำให้สูญเสียโอกาสสุดท้ายไป และถูกรีบอร์นโจมตีด้วยกระสุนดับเครื่องชนจนไม่ผ่านการทดสอบในที่สุด
การทดสอบครั้งที่เจ็ด : การทดสอบของเวลเด้ ทดสอบด้านสัญชาตญาณ โดยเวลเด้ได้หลอกให้สู้กับหุ่นยนต์ที่ก๊อปปี้ตัวเองขึ้นมา ในตอนแรกพวกอัลโกบาเลโน่ ทั้งหมดได้โดนจับ (ยกเว้นอาเรีย เพราะเธอไม่ใช่อัลโกบาเลโน่) โดยหลังจากที่สึนะช่วยพวกนั้นมาได้ก็ได้ช่วยกันกำจัดเวลเด้แต่ตัวแรกเป็นหุ่นยนต์จึงเสียแรงฟรีเปล่าๆ แต่สึนะได้รู้สึกว่ามีฐานทับลับของเวลเด้อยู่ใกล้ๆ พวกสึนะจึงผ่านการทดสอบ
การทดสอบรอบแปด : การทดสอบของรีบอร์น (รอบสอง) ทดสอบด้ายความเชื่อใจและความพยายาม โดยตอนที่พวกสึนะฝึกกับเวลเด้ผ่านและได้พลังอัศนีของเวลเด้มา รีบอร์นก็ให้ผ่านการทดสอบ เพราะสึนะต้องการทดสอบกับรีบอร์นอีกรอบรีบอร์นเห็นว่ามีความพยายามจึงให้ผ่านไปเลย
ตัวละคร
ดูบทความหลักที่ ตัวละครในครูพิเศษจอมป่วน รีบอร์น!
ซาวาดะ สึนะโยชิ
ดูบทความหลักที่ ซาวาดะ สึนะโยชิ
นักเรียน มัธยม โรงเรียนนามิโมริ ที่ทำอะไรก็ไม่ได้เรื่องไปซะทุกอย่าง จนได้ฉายาว่า สึนะจอมห่วยเป็นทายาทโดยตรงของวองโกเล่รุ่นที่ 9 จึงได้รับเลือกเป็นวองโกเล่รุ่นที่10ทำให้ต้องได้รับการฝึกฝนเป็นวองโกเล่รุ่นต่อไป โดยมีรีบอร์นเป็นครูสอนพิเศษและ10ปีข้างหน้าได้ตายเพราะถูกมิฟิโอเล่ยิงตายมีเปลวไฟธาตุนภา โดย ธาตุนภา มีคุณสมบัติพิเศษคือ การผสมกลมกลืน(แต่แท้จริงยังมีชีวิตอยู่ จากคำบอกเล่าของอิริเอะ โชอิจิ ในตอนที่ 252-253)และมีถุงมือนภาสัญลักษณ์บอสของวองโกเล่
อาวุธ ถุงมือ X-Gloves และ X-Gloves Ver.v.r. (Version Vongola Ring) กล่อง สิงโตนภา ท่าไม้ตาย เดือดทะลุจุดศูนย์ เดือดทะลุจุดศุนย์ฉบับดัดแปลง X-Burner X-Burner-Air X-stream X-buster และ X-burner Hyper Explosion
โกคุเดระ ฮายาโตะ
ดูบทความที่ โกคุเดระ ฮายาโตะ
โกคุเดระ ฮายาโตะ (獄寺 隼人 | Gokudera Hayato)
แม่ของโกคุเดระเป็นญี่ปุ่น พ่อเป็นคนอิตาลี(เป็นที่ชื่นชอบของสาวๆ)และตัวเองที่ชื่นชอบของสาวๆด้วยเพราะสอบได้คะแนนเต็ม เก่งในด้านความจำ สังเกตจากการสอนสึนะในรูปแบบต่างๆ ตอนฝึกอาวุธกล่อง
ความฝัน : เป็นมือขวาของรุ่นที่ 10 (เจ้าห่วยสึนะ) นิตยสารที่ชอบอ่าน : The Wonders and Mysteries of the World
บุคคลที่เกลียด : ผู้ชายที่แก่กว่า, เบียงกี้, แรมโบ้
งานอดิเรก : เล่นเปียโน อ่านหนังสือ ฆ่าคน ปาระเบิด
อายุ : 15 ปี
วันเกิด : 9 กันยายน
ราศี : ราศีกันย์
กรุ๊ปเลือด : บี
ส่วนสูง : 168 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 54 กิโลกรัม
ประเทศที่เกิด : อิตาลี
อาวุธ - ระเบิด , กล่องสำหรับใช้ SISTEMA C.A.I. (Cambio Arma Istantaneo (เปลี่ยนอาวุธชั่วพริบตา)) 16กล่อง
ท่าไม้ตาย
• - ระเบิด2เท่า,3เท่า
• - SISTEMA C.A.I. คือระบบการทำงานของ5ธาตุกับ16กล่อง ซึ่งทั้ง16กล่องนั้น จะมีเพียง4ที่เปิดได้ด้วยแหวนที่ ติดไฟธาตุวายุแท้ๆ หนึ่งใน4กล่องนั้นคืออุริ เป็นสื่อที่ทำให้เปิดกล่องซึ่งเก็บแหวนที่ สามารถแปลงไฟธาตุวายุ เป็นธาตุพิรุณได้และ จากแหวนธาตุพิรุณนั้น ทำให้เปิดได้อีก3กล่อง ซึ่งแต่ละกล่องก็เก็บแหวน ที่แปลงคลื่นวายุเป็นธาตุอื่นๆได้อีก คือ อรุณ อัสนี และ เมฆา และยังมีอาวุธที่สนับสนุน คือ กระสุนหัวจรวดที่ติดมาในกล่อง เดียวกับแหวนแห่งอรุณ อีก3ยังเป็นแป็นปริศนา แต่แหวนอีก3วงที่ได้มานั้น ใช้ผสมกับธาตุ วายุและพิรุณจะทำไห้เปิดกล่องได้อีก จนครบ12กล่อง ซึ่งจากการผสมธาตุนั้น อาวุธที่ได้มาจากกล่อง อาวุธ2ธาตุ คือมีไฟธาตุอื่นเคลือบธาตุวายุ อีกที เพิ่มประสิทธิภาพในการทำลาย ให้มากขึ้นด้วยคุณสมบัติ ที่หลากหลาย และนี่ก็คือ SISTEMA C.A.I
ขั้นตอน การใช้ และความสารถที่เพิ่มเข้ามาหลังจากการประยุกต์ใช้
1.คือ การที่จะสามารถเปิดกล่อง Sistema C.A.I. นั้นจำเป็นจะต้องมีไฟทั้งหมด 5ธาตุ คือ วายุ อรุน อัศนี เมฆา พิรุณ ไหลเวียนอยู่ในร่างกาย
2.Sistema C.A.I. นั้น ถ้าไม่เปิดทั้งหมด อาวุธจะใช้การไม่ได้ (ค่อยๆเปิดใช้ไล่ไปก็ได้ แต่ถ้าไม่เปิดต่อไปเรื่อยๆก็จะไม่สามารถใช้ได้ครับ)
3.Sistema C.A.I. เป็นระบบ ที่สามารถ สัปเปลี่ยนอาวุธ โดยอาศัยการเปิดกล่องธาตุต่างๆ
4.เวลา ยิง สามารถใช้ไฟธาตุ ต่างๆ มาผสมกับธาตุวายุ เพื่อให้ได้เปรียบในสถานการณ์ต่างๆ เช่นเพื่อที่จะทำลายเกราะอัศนี จำเป็นต้องใช้ การสะกดของพิรุณ+วายุ
5.มีโล่ป้องกันอัตโนมัติ ไว้ใช้ ป้องกัน โดย ใช้วายุผสมธาตุต่างๆเช่นกัน เพื่อให้ได้เปรียบอีกฝ่าย
กระสุนธาตุ วายุ เป็น เฟรมมิ่งแอโร่
กระสุนธาตุ วายุ+พิรุณ เป็น Raining shoot (มีไฟธาตุพิรุณเคลือบ) มีความสามารถในการลดการป้องกันของศัตรูและโจมตีในเวลาเดียวกัน
กระสุณธาตุ วายุ+อรุณ เป็น การยิงกระสุนปืนกล ที่สามารถเร่งความเร็วได้อีกในระหว่างที่ยิงออกไปแล้ว (Sunshine Shot )
กระสุนธาตุ วายุ+เมฆา เป็นการยิงเลเซอร์หลายๆเส้น แพร่ขยาย ออกเป็นรัศมีกว้าง ด้วยคุณสมบัติเพิ่มพูณ ของเมฆา (Cloud Laser)
กระสุน ธาตุ วายุ+อัศนี ไฟธาตุอัศนีที่มีความแข็งที่สุด+กับวายุที่พลังในการสลาย ทำให้ได้เฟรมแอโร่ที่รุนแรงที่สุด (Flame thunder)
แล้วยังมีคล้ายๆบอร์ด อากาศ เอาไว้สำหรับ บิน (มันคือ โล่ของโกคุที่ใช้ ป้องกันมันสามารถเปลี่ยนรูปแบบไปใช้ ใช้ในการเคลื่อนที่ได้) พอคอมโบฟอม่า กับ อุริ กลายเป็นธนู G
แม่ของโกคุเทระเป็นนักเปียโน ส่วนตัวโกคุเดระเองก็เล่นเปียโนมาตั้งแต่เด็ก
หมายเหตุ นามสกุลของโกคุเทระ ตามต้นฉบับที่ถูกต้องต้องอ่านว่า"โกคุเดระ" แต่เมื่อได้รับการนำมาตีพิมพ์ในภาษาไทยได้มีการคลาดเคลื่อนไปจากต้นฉบับ อนึ่ง ในฉบับอะนิเมะของภาษาไทยก็ยังคงเรียกว่า"โกคุเดระ"ตามต้นฉบับ
ยามาโมโตะ ทาเคชิ
ดูบทความที่ ยามาโมโตะ ทาเคชิ
ยามาโมโตะ ทาเคชิ (山本 武 | Yamamoto Takeshi)
กิจวัตรประจำวัน : ไปสนามแข่งขัน (นามิโมริ โบว์)
ความฝัน : นักเบสบอลมืออาชีพ
อาหารที่ชอบ : ซูชิ
เครื่องดื่มที่ชอบ : นม
เครื่องดนตรีที่ชอบ : กลองวาไทโกะ
อายุ : 15 ปี
วันเกิด : 24 เมษายน
ราศี : ราศีพฤษภ
กรุ๊ปเลือด : โอ
ส่วนสูง : 177 เซน
น้ำหนัก : 63 กิโล
ประเทศที่เกิด : ญี่ปุ่น
อาวุธ : ชิงุเระคิโทคิ ดาบไม้ ที่เมื่อใช้ท่าของชิงุเระโซเอนจะกลายเป็นดาบมีคม(อาวุธในศึกChoiceมี3ดาบสั้นจากจิโร่),กล่องนางแอ่นพิรุณ (โคจิโร่) ,กล่องสุนัขคาบดาบ (จิโร่) เมื่อดาบไม้รวมร่างกับโคชิโร่(Cambio Forma) จะได้เป็นดาบนางแอ่น
ท่าไม้ตาย : กระบวนท่าเพลงดาบชิงุเระโซเอ็น (ภายหลังเพิ่มเป็น4ดาบ เรียก4ดาบไร้กฏเกณท์ แต่ยังคงเปนชิงุระโซเอ็น)
กระบวนท่ารุก ลำดับที่ 1 กงล้อพิรุณ พุ่งเอาดาบแทงศัตรูตรงๆโดยใช้น้ำโอบล้อมร่างกาย
กระบวนท่ารับ ลำดับที่ 2 พิรุณโปรยสาด ใช้กำแพงน้ำกำบังกายแล้วย่อตัวลงป้องกัน
กระบวนท่ารุก ลำดับที่ 3 พิรุณสาดซัด ใช้เท้าเตะดาบพุ่งไปหาศัตรู
กระบวนท่ารับ ลำดับที่ 4 พิรุณหนาวกระหน่ำพัด หลบหลีกคมดาบของศัตรูโดยการปรับลมหายใจให้ตรงกัน
กระบวนท่ารุก ลำดับที่ 5 พิรุณเดือนห้า สลับดาบไปอีกมือทำให้จังหวะและวิถีดาบเปลี่ยนไปตามใจชอบได้
กระบวนท่ารับ ลำดับที่ 6 ยังไม่ปรากฏ แต่เป็นกระบวนท่ารับ
กระบวนท่ารับ ลำดับที่ 7 พิรุณกระโชกพัด กันการโจมตีศัตรูโดยฟันหมุนเป็นวงกลม
กระบวนท่ารุก ลำดับที่ 8 พิรุณกระหน่ำแทง พุ่งไปหาศัตรูฟันดาบในแนวนอนจากขวาไปซ้ายอย่างรวดเร็ว
กระบวนท่ารุก ลำดับที่ 9 ฝนสะท้อนเงา ตวัดดาบสร้างคลื่นให้เกิดเงาลวงศัตรูแล้วพุ่งไปฟันด้านหลัง
กระบวนท่าพิเศษรุก ลำดับที่ 10 นกนางแอ่นประจัญบาญ (Scontro di rondine) ใช้ชิโร่บินสร้างไฟพิรุณนำทางแล้ววิ่งตามไปฟันด้วยดาบที่มีไฟธาตุพิรุณอยู่
กระบวนท่าพิเศษรุก ลำดับที่ 11 จงอยปากนางแอ่น (Beccata di rondine) แทงดาบด้วยควาเร็วสูงจนเหมือนดาบมีหลายเล่ม
• ในอีก10ปี ใช้สคอนโทรดิออนดิเน พร้อมกับพิรุณกระหน่ำแทง (มีการใช้ท่าของสควอโลด้วย เช่น Attack Gold D Scuolo)
กระบวนท่าพิเศษรุก รวมกระบวนท่า ใช้ได้ตอนรวมดาบกับ โคจิโร่ เป็นการกระจาย ไฟดับเครื่องชนธาตุพิรุณ ในรัศมีกว้าง สิ่งที่อยู่ในรัศมีนั้น จะขยับช้ามากจนแทบจะไม่เห็นการเคื่อนไหวเลย
แรมโบ้
แรมโบ้ (ランボ | Lambo) เด็กนักฆ่าที่คิดจะฆ่ารีบอร์นแต่ทำไม่สำเร็จ ภายหลังตกเป็นภาระให้สึนะต้องดูแล มีบาซูก้าทศวรรษที่บอสของโบวีโน่ แฟมืลี่[แฟมิลี่ที่เล็กกว่าวองโกเล่ แฟมิลี่ ]มอบมาให้ ซึ่งเป็นของเล่นประจำตัว เป็นผู้พิทักษ์แหวนแห่งอัสนีของวองโกเล่และเป็นเด็กที่ติงต๊อง ตั้งแต่เขาเกิดมาก็โดนฟ้าผ่าซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนร่างกายปรับตัวอย่างที่หาได้ยากหรือเรียกว่า อิเล็กทริคโก้ ควอยโอ้ (ผิวอัสนีบาต) ซึ่งเป็นเหตุทำให้แรมโบ้กลายเป็นผู้พิทักษ์แหวนแห่งอัสนี แรมโบ้ มีท่าไม้ตายคือ อิเล็กทริคโก้ คอนนาต้า และอิเล็กทริคโก้ รีเวิส สายฟ้าสำหรับเขา (ในอนาคต) เหมือนเป็นลูกแมว คำพูดที่ติดปากของแรมโบ้คือ อดทนไว้
ฮิบาริ เคียวยะ
ดูบทความที่ ฮิบาริ เคียวยะ
ฮิบาริ เคียวยะ (雲雀 恭弥 | Hibari Kyōya) กรรมการคุมกฏระเบียบประจำโรงเรียนนามิโมริ รักโรงเรียนมากถึงขนาดใช้เพลงริงโทนมือถือเป็นเพลงโรงเรียน และเขาก็ยังสนใจในตัวรีบอร์นอีกด้วย ถึงแม้จะเป็นวันหยุดแต่เขาก็ยังใส่ชุดนักเรียนไปไหนมาไหน ฮิบาริยอมไม่ได้ที่จะมีคนมาดูถูกโรงเรียน หรือเด็กนักเรียนนามิโมริถูกทำร้าย เขาจึงเป็นคนที่ใคร ๆ ก็หวาดกลัว แต่ในขณะเดียวกันก็ได้รับความเคารพยำเกรงเช่นเดียวกัน ฮิบาริเกลียดการสุมหัว มีฝีมือที่ร้ายก้าจ แถมยังเป็นผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งที่สุดในวองโกเล่อีกด้วย

ประวัติ
เกิดวันที่: 5 พ.ค. (เนื่องจากจำได้ว่าตัวเองเกิดในวันเด็กผู้ชาย)
สูง: 169cm.
หนัก: 59 Kg.
สัญชาติ:ญี่ปุ่น
คำพูดติดปาก:ชั้นจะขย้ำแกให้ตาย (kimikarakamikorosu) กับ wow
อาวุธ:กระบองสั้น (ทอนฟา) ซึ่งติดอุปกรณ์เสริมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นลูกตุ้ม ตะขอเกี่ยว ฯลฯ กล่อง แหวนแห่งเมฆา
ท่าไม้ตาย:ชาโดว์บอล ขยายตัว ลูกตุ้มหนาม
อาหาร:อาหารญี่ปุ่น,แฮมเบิร์ก
รหัสประจำตัว:18
ครูสอนพิเศษ:ดีโน่
สัตว์เลี้ยง:ฮิเบิร์ด
โรคุโด มุคุโร
ดูบทความที่ โรคุโด มุคุโร่
วันเกิด : 9 มิถุนายน
อายุ : 15 ปี
ราศี : ราศีเมถุน
กรุ๊ปเลือด : บี
ส่วนสูง : 177.5 เซน
น้ำหนัก : 62 กิโล
ประเทศที่เกิด : อิตาลี
สีที่ชอบ : สีดำ สีม่วง
งานอดิเรก : เดินเล่นในภาพลวงตา <- - เดินจนไปเจอนางิ(โครม)ไง
อาหารที่ชอบ : ช็อคโกแลต
อาหารที่ไม่ชอบ : อาหารเผ็ด
ชายหนุ่มผู้เต็มไปด้วยปริศนาและเกลียดมาเฟียอย่างมากที่ต้องการครอบครองร่างของสึนะเพื่อที่จะได้ทำลายมาเฟีย ในเนื้อเรื่องภาค "ศึกโกคุโย" มุคโร่ได้มาที่เมืองนามิโมริ พร้อมด้วยพรรคพวกอีก 6 คน ที่แหกคุกมาด้วยกัน เข้าค้นหาตัว "บอสรุ่นที่10ของวองโกเล่" มุคุโร่ได้จับตัวฟูตะไป และใช้ความสามารถของฟูตะเพื่อหาจุดอ่อนของพรรคพวกของสึนะแต่ละคน และ มุคุโร่ก็ได้ส่งพรรคพวกของเขาจัดการพวกสึนะทีละคน เพื่อล่อให้สึนะมาหาตนที่โกคุโยแลน หลังจากนั้นมุคุโร่ได้ต่อสู้กับสึนะโหมดไฮเปอร์ และพ่ายแพ้ในที่สุด
อีก 10 ปีข้างหน้าก็ได้ใช้กระสุนสิงสู่ไปสิงนกฮูกของโกร คิชิเนีย และเลโอนาโด ริปปี เพื่อเป็นสปายในมิลฟิโอเล่แฟมิลี และฟราน นักฆ่าสายหมอกของวาเรียเป็นลูกศิษย์ของตน
ท่าไม้ตายดวงตาวัฏสงสาร (ดวงตาแห่งการเวียนว่ายตายเกิด) เป็นความสามารถของโรคุโด มุคุโร ตัวละครจากการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง ครูพิเศษจอมป่วน REBORN!รีบอร์นตาข้างขวาของมุคุโร่ใช้ความสามารถที่แตกต่างกันได้ 6 ความสามารถ ซึ่งแยกเป็น 6 พิภพ อันได้แก่
(一) พิภพนรก สามารถสร้างภาพลวงตาเสมือนจริงขึ้นมาหลอกหลอนศัตรูได้
(二) พิภพเปรต สามารถชิงท่าไม้ตายและความสามารถของบุคคลที่มุคุโรสิงสู่ด้วยการ"ทำสัญญา"
(三) พิภพเดรัจฉาน สามารถอัญเชิญสัตว์มีพิษที่ทำร้ายมนุษย์ออกมา ส่วนใหญ่มุคุโรจะอันเชิญงู
(四) พิภพอสูร เพิ่มความสามารถในการต่อสู้ให้รวดเร็วและทรงพลังยิ่งขึ้น เวลาใช้จะมีไฟดับเครื่องชนปรากฏขึ้นที่ตาข้างขวา
(五) พิภพมนุษย์ มีความสามารถของทุกพิภพรวมกัน เป็นพิภพที่ทรงพลังที่สุด เมื่อใช้ร่างของมุคุโรจะมีออร่าสีดำแผ่ออกมารอบตัว แต่ตัวมุคุโรเองเกลียดชังพิภพนี้มากที่สุดจึงไม่ค่อยใช้ และเวลาที่จะใช้พิภพนี้ มุคุโร่จะขยี้ตาอย่างแรงจนเลอดไหลออกมาจากตาเสมอ
(六) พิภพสวรรค์ สามารถสะกดจิตและควบคุมจิตใจของคนได้ ถ้าใช้ตอนอยู่ในสภาพที่ถูกกระสุนสิงสู่ยิง จะสามารถเข้าสิงร่างของคนที่ทำสัญญากับมุคุโร่ได้ ที่ตาขวาของมุคุโร่มักจะใช้พิภพนี้อยู่ตลอดเวลา อาจจะเพราะเป็นพิภพที่ใช้พลังน้อยที่สุด
โครม โดคุโร
ดูบทความที่ โครม โดคุโร
สาวน้อยอายุ 13 ปี สวมเครื่องแบบโรงเรียนโกคุโย ชื่อเดิมของเธอ คือ "นางิ" เธอประสบอุบัติเหตุถูกรถชนเพราะเข้าไปช่วยเหลือแมวจนบาดเจ็บสาหัสทำให้สูญเสียตาข้างขวาและอวัยวะภายในทั้งหมด ทำให้ต้องได้รับอวัยวะจากคนกรุ๊ปเลือดเดียวกันเพื่อช่วยชีวิตเธอ แต่พ่อแม่ของเธอกลับไม่สนใจเพราะพวกเขาไม่ใช่พ่อแม่ที่แท้จริงของเธอ จนในที่สุดระหว่างที่เธอกำลังจะตายนั้นเองโรคุโดก็ได้สร้างอวัยวะให้โครมด้วยภาพลวงตา ทำให้โครมมีชีวิตอยู่ได้ และโครมยังสามารถใช้ความสามารถพิภพนรก กับพิภพเดียรัจฉานของมุคุโร่ได้
วองโกเล่แฟมิลี่
Vongola famiglia หรือ วองโกเล่ แฟมิลี่ เป็นแก๊งมาเฟียที่มีชื่อเสียงโด่งดังอันดับต้น ๆ เป็นแฟมิลี่สุดแกร่งมีอาณาเขตยึดครองอยู่ทั่วยุโรป มีประวัติยาวนานถึง 400 ปี ซึ่งเจตนาในการก่อตั้งแก๊งค์คือต้องการปกครองหรือปกป้องเมือง เพื่อน ๆ และคนที่รัก จากบรรดาแก๊งมาเฟียต่าง ๆ ในแบบฉบับของมาเฟียเนื่องจากสมัยนั้นเป็นยุคบุกเบิกของมาเฟียอิตาลี จึงทำให้มีมาเฟียแก๊งต่าง ๆ ออกมาอาละวาดก่อสร้างความวุ่นวายทำร้ายผู้คนในเมืองต่าง ๆ ทั่วอิตาลี แม้กระทั่งกฎหมายและตำรวจก็ไม่สามารถแก้ไขได้พรีโม่(วองโกเล่รุ่นที่ 1)ที่สมัยนั้นอายุรุ่นราวคราวเดียวกับสึนะต้องการปกป้องเมืองของตัวเองเลยคิดวิธีหนามยอกต้องเอาหนามบ่ง มันเป็นมาเฟียเราก็ต้องเป็นมาเฟีย ที่ทำเรื่องนอกกฎหมายต่อสู้กับมาเฟียเพื่อปกป้องเมือง แรกเริ่มเดิมทีคือการตั้งศาลเตี้ยและขยายอิทธิพลแก๊งค์มาเป็นวองโกเล่แฟมิลี่จนถึงปัจจุบัน และมีกฎเหล็กว่าผู้ที่สืบทอดตำแหน่งบอสจะต้องมี "สายเลือดแห่งวองโกเล่ :Blood Of Vongala" เท่านั้นและผู้ที่มี Blood Of Vongala จะมีความสามารถที่สืบทอดให้กันในสายเลือดวองโกเล่คือ "สุดยอดลางสังหรณ์" แต่ใช่ว่าผู้ที่มีBlood Of Vongala ทุกคนจะสามารถเป็นบอสของวองโกเล่ได้จะต้องได้รับการทดสอบ แล้วต้องเป็นที่ยอมรับของบอสวองโกเล่และบอสขององค์กรผู้ดูแลนอกแก๊ง ซึ่งทั้งสองจะเก็บ "Half Vongola Ring" แหวนวองโกเล่คนละครึ่งวงมอบให้ผู้สืบทอดตำแหน่งบอสนั่นเอง ซึ่งผู้สืบทอดตำแหน่งบอสจะมีชื่อเรียกขานต่าง ๆ กันดังต่อไปนี้
• วองโกเล่รุ่นที่หนึ่ง (Primo) มีชื่อเรียกว่า Giotto(จิอ็อตโต้)อาวุธคือถุงมือรูปแบบเดียวกับ สึนะ เป็นบุคคลที่ถูกกล่าวขานว่า เป็นหัวหน้าที่แข็งแกร่งที่สุดของวองโกเล่ จนได้รับขนานนามว่า "บุรุษแห่งนภา" วองโกเล่รุ่นแรก ขอเพียงเป็นคนที่ถูกใจ จะเป็นใครมาจากไหน ก็ยอมรับได้หมด แฟมิลี่รุ่นแรกมีทั้ง กษัตริย์ ทหาร มาเฟียคู่แข่ง ผู้นำลัทธิ มีท่าไม้ตายที่ถูกเรียกว่าเป็นตำนานว่า"เดือดทะลุจุดศูนย์" จากเหตุการณ์ขัดแย้งกับรุ่นที่ 2 ที่เป็นพี่น้องต่างมารดากัน ซึ่งจีอ๊อตโต้ไม่อยากจะมีเรื่องบาดหมางกับพีน้องของตัวเองจึงได้ล้างมือจากวงการมาเฟียมาอยู่ที่ญี่ปุ่นโดยการชักชวนอาซาริ อุเกทสึ ผู้พิทักษ์แห่งพิรุณและได้เปลี่ยนชื่อเป็น ซาวาดะ อิเอยะสึ พรีโม่หรือจีอ๊อตโต้มีลูกด้วยกัน 2 คน อยู่ที่ญี่ปุ่น 1 คนและอยู่ที่อิตาลี อีก 1 คน ชื่อSimora นั่นก็คือSesto วองโกเล่รุ่นที่ 6
• วองโกเล่รุ่นที่สอง (Secondo) เป็นพี่น้องต่างมารดากับจีอ๊อตโต้ มีนิสัยโหดร้ายต้องการจะให้วองโกเล่เป็นมาเฟียที่โหดร้ายครอบครองสังคมมืดทั้งหมด จึงเป็นเหตุให้มีข้อขัดแย้งกับพรีโม่ จนในที่สุดตัวเองก็ได้เป็นบอสของวองโกเล่รุ่นที่ 2 ซึ่งเมื่อเขาได้รับตำแหน่งนี้เขาได้ใช้ความหวาดกลัวครอบครองสังคมมืด และวองโกเล่ก็ได้เริ่มแปรเปลี่ยนจากที่เป็นมาเฟียเพื่อดูแลความสงบสุขของเมือง มาเป็นมาเฟียในแบบที่โหดร้ายก็ในยุคของเขาวองโกเล่เซคันต์ มีไฟ "เพลิงพิโรธ" ซึ่งเป็นไฟที่มีความรุนแรงสูงมาก ไม่ใช้อาวุธ ใช้มือเปล่าเท่านั้น จะใช้ก็ต่อเมื่อโกรธจึงจะใช้ "เพลิงพิโรธ"
• วองโกเล่รุ่นที่สาม (Terzo) อาวุธ มีด
• วองโกเล่รุ่นที่สี่ (Quarto) อาวุธคือ ส้อม
• วองโกเล่รุ่นที่ห้า (Quinto) อาวุธ กรรไกร
• วองโกเล่รุ่นที่หก (Sesto) มีชื่อเรียกว่า Simora(ซิโมร่า)เป็นลูกชายของวองโกเล่รุ่นที่ 1 อาวุธบูมเมอร์แรง
• วองโกเล่รุ่นที่เจ็ด (Settimo)มีชื่อเรียกว่า Fabio(แฟบิโอ้) อาวุธคือ ปืนที่มีสัญลักษณ์ ในบรรดาหัวหน้าแก๊ง รุ่นที่ 7 มีพลังไฟ รุนแรงน้อยที่สุดในบรรดาหัวหน้าแก๊ง แต่เพราะมีปืนที่สามารถบรรจุไฟทีละน้อยๆ แล้วยิงออกมาอย่างรุนแรงได้ จึงจัดได้ว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดหัวหน้าแก็งมาเฟียเลยทีเดียว และได้ดัดแปลงกระสุนดับเครื่องชนเองด้วย จากแผงผังตระกูลวองโกเล่เขาคือลูกชายของรุ่นที่หก
• วองโกเล่รุ่นที่แปด (Ottavo)ชื่อของเธอคือ Daniela(ดานิเอล่า) อาวุธ หน้าไม้ เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เป็นบอสของวองโกเล่จากแผงผังตระกูลวองโกเล่เขาคือลูกสาวของรุ่นที่เจ็ด
• วองโกเล่รุ่นที่เก้า (Nono)มีชื่อเรียกว่า Timoteo(ทิมอเทโอ) อาวุธ คฑา ผู้ที่ถูกขนานนามว่า ได้รับฉายา เลือกสรรค์ของพระเจ้า เพราะเป็นผู้ที่ มีสายตาที่มองคนทะลุปรุโปร่งและสามารถใช้ท่าที่เป็นตำนานของวองโกเล่รุ่นที่1 "เดือดทะลุจุดศูนย์" ได้ มีพลังระดับกลาง ๆ ในรายชื่อบอสของวองโกเล่
• วองโกเล่รุ่นที่สิบ (Decimo) อาวุธคือ X Glove ถุงมือ ที่มีตัว X หรือ เลข 10 ของโรมัน เป็นเครื่องหมาย โดยในศึกภาคอนาคต X Glove สามารถรวมพลังกับแหวนแห่งนภา ได้มาจากการทดสอบในตำนานที่หัวหน้าแก๊งวองโกเล่ทุกคนต่างได้รับการทดสอบมาแล้ว กลายเป็น X Glove Ver.Vongola Ring โดยสัญลักษณ์ของวองโกเล่ จะเข้ามาแทนที่ ตัว X ท่าไม้ตายเดือดทะลุจุดศูนย์ฉบับต้นตำรับ , เดือดทะลุจุดศูนย์ฉบับดัดแปลง , X Buster , X-Burner , X-Stream , X-burner air , X-burner Hyper Explosin , Big Bang Axel
ท่าไม้ตายที่ให้นัตสึ อาวุธกล่องสิงโตนภา คอมบิโอ โฟลม่ารวมร่างกับถุงมือ X-Glove Ver.Vongola Ring ขณะจู่โจม และสึนะเป็นบอสวองโกเล่คนเดียวนอกจากรุ่นที่ 1 ที่สามารถปลุกพลังของแหวนวองโกเล่ให้กลับมาเป็นรูปลักษณ์เดิมได้เพราะได้เข้าใจเจตนารมณ์ของวองโกเล่ของรุ่นที่หนึ่งนั่นเอง
• แหวนแห่งนภา เป็นเหมือนกับท้องฟ้า ที่โอบอุ้มทุกสิ่งเอาไว้ ผู้ครอบครอง คือ ซาวาดะ สึนะโยชิ
• แหวนแห่งวายุ เปรียบเสมือนสายลม ที่พัดกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง ที่จะปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายให้ออกไป ผู้ครอบครอง คือ โกคุเทระ ฮายาโตะ
• แหวนแห่งพิรุณ เปรียบเสมือนสายฝน ซึ่งจะชำระล้างทุกสรรพสิ่ง ผู้ครอบครอง คือ ยามาโมโตะ ทาเคชิ
• แหวนแห่งเมฆา เปรียบเสมือนเมฆ ที่ล่องลอยไปอิสระ ไม่ผูกมัดกับใคร ผู้ครอบครอง คือ ฮิบาริ เคียวยะ
• แหวนแห่งอรุณ เปรียบเสมือนดวงอาทิตย์ ที่สาดแสงให้ท้องฟ้าสว่างไสว ผู้ครอบครอง คือ ซาซางาวะ เรียวเฮ
• แหวนแห่งอัสนี เปรียบเสมือนสายฟ้า ที่เก็บซ่อนพลังอำนาจอันร้ายแรงเอาไว้ ผู้ครอบครอง คือ แรมโบ้
• แหวนแห่งสายหมอก เปรียบเสมือนภาพลวงตา ซึ่งไม่สามารถจับต้องตัวจริงได้ ผู้ครอบครอง คือ โคลม โดคุโร่ (โรคุโด มุคุโร)

ผู้พิทักษ์วองโกเล่แฟมิลี่รุ่นที่ 1
ผู้พิทักษ์แห่งวายุ - G(จี)
G คือเพื่อนสนิทในวัยเด็กและยังเป็นมือขวาของวองโกเล่รุ่นที่ 1 เป็นคนที่ร่วมกับรุ่นที่ 1 ก่อตั้งวองโกเล่แฟมิลี่ขึ้นมา G มีลอยสักที่ครึ่งหน้าข้างขวาป็นรูปไฟ นิสัยต่างกับโกคุเดระคือ "ความสุขุม" แต่เหมือนกันตรงที่ความจงรักภักดีและทำตามคำสั่งทุกอย่างจากรุ่นที่ 1 ปกติเมื่อเขาทำงานอย่างอื่นจะใช้ปืนในการทำงานเป็นหลักแต่ถ้าเป็นงานที่มอบหมายโดยรุ่นที่ 1 เขาจะใช้ธนูเป็นอาวุธ นั้นจึงทำให้เขาไม่เคยแพ้ใคร
อาวุธ - ปืน ,ธนู
ท่าไม้ตาย - ???

ผู้พิทักษ์แห่งพิรุณ - Asari Ugetsu(อาซาริ อุเกทสึ)
อุเกทสึเป็นนักดนตรีชาวญี่ปุ่น ได้เข้าวองโกเล่แฟมิลี่มาเกือบพร้อม ๆ กับจีผู้พิทักษ์วายุรุ่นที่ 1 (คล้าย ๆ ที่สึนะรับโกคุเดระเข้าแฟมิลี่มาก่อนแล้วรับยามาโมโตะตามเข้ามาทีหลังนั่นเอง)นิสัยของอุเกทสึคงแบบเดียวกับยามาโมโตะ รักเพื่อน ยอมเสียสละเพื่อเพื่อน อุเกทสึชอบเล่นดนตรีมากกว่าการจับดาบ แต่เมื่อครั้งที่รุ่นที่1 มีภัยจากศัตรู อุเกทสึ นำเครื่องดนตรีที่เขารักไปแลกกับดาบสั้น 3 เล่มและดาบยาว 1 เล่ม เพื่อช่วยปกป้องรุ่นที่ 1 นอกจากนี้อาซาริยีงเป็นคนที่ชักชวนให้จิอ๊อตโต้ วองโกเล่รุ่นที่ 1 ที่ล้างมือจากวงการมาเฟียมาอยู่ที่ญี่ปุ่นอีกด้วย
อาวุธ - ดาบคะตะนะ 1 เล่มและดาบสั้น 3 เล่มหรือเรียกว่า 4 ดาบพิศดารเป็นที่มาของอาวุธกล่องของยามาโมโตะ
ท่าไม้ตาย - Frozen Rain(ฝนแช่แข็ง),Torential Dance(ระบำที่ไหลเชี่ยว),Kuzuryu Riverfall(น้ำตกมังกรฟ้า)

ผู้พิทักษ์แห่งเมฆา - Alaude(อเลาดิ)
อเลาดิทำงานในหน่วยสืบราชการลับขององค์กรในต่างประเทศแห่งหนึ่ง ถูกชักชวนจากวองโกเล่รุ่นที่ 1 ให้มาเป็นผู้พิทักษ์แห่งเมฆา นิสัยคงแบบเดียวกับฮิบาริ ผู้ที่ไม่ชอบการสุมหัวและรักษาในกฎต่าง ๆ อย่างเคร่งครัดจำทำอะไรต้องยุติธรรมที่สุด อเลาดิเป็นคนที่ไม่ยอมใครและไม่ยอมรับในแนวทางของแฟมิลี่ซักเท่าไร แต่กระนั้นก็ยังยอมรับในตัวของจิอ๊อตโต้จึงข้ามเส้นทางมาเป็นผู้พิทักษ์แห่งเมฆาที่เดินทางเป็นคู่ขนานกับวองโกเล่ (คล้ายกับฮิบาริในอีก 10 ปีข้างหน้าที่ยอมรับสึนะที่แข็งแกร่งขึ้นเพื่อปราบเบียกคุรัน)แต่เมื่อมีศัตรูมาทำร้ายแฟมิลี่ เขาเป็นคนที่กำจัดศัตรูได้มากที่สุดอีกด้วย นอกจากนี้อเลาดิและนัคเคิ้ลก็ยังนั้นมีความคล้ายคลึงกับความสัมพันธุ์ของฮิบาริและเรียวเฮในอีก 10 ปีข้างหน้าคือ นัคเคิ้ลชอบไปมาหาสู่กับอเลาดิแต่ลงท้ายก็วางมวยกันเสมอ ("Alaude" เป็นชื่อภาษาฝรั่งเศสแผลงมาจากคำว่า "Arvensis Alauda" ซึ่งเป็นชื่อวิทยาศาสตร์ของนกสกุลสกายลาร์ซึ่งที่ญี่ปุ่นเรียกนกสกุลนี้ว่า "Arubenshisuhibari" ซึ่งไปพ้องกับชื่อของ "ฮิบาริ เคียวยะ" ผู้พิทักษ์แห่งเมฆารุ่นที่ 10)
อาวุธ - กุญแจมือ
ท่าไม้ตาย - ???

ผู้พิทักษ์แห่งอรุณ - Knuckle(นัคเคิ้ล)
นักมวยผู้ที่เป็นแชมป์ที่ไม่เคยถูกโค่นจากตำแหน่ง แต่อาชีพของเขาต้องจบลงเพราะ เมื่อเขาได้พลั้งมือฆ่าคู่ต่อสู้ในการแข่งขันชกมวยครั้งหนึ่ง ทำให้เขารู้สึกผิดและได้แขวนนวม แล้วไปบวชเป็นบาทหลวง นับแต่นั้นก็ไม่เคยเข้ามายุ่งในวงการมวยอีกเลย วองโกเล่รุ่นที่ 1 จึงได้ชวนมาเป็นผู้ทักษ์แห่งอรุณ แต่เมื่อแฟมิลี่มีภัย นัคเคิลได้ยอมทิ้งปณิธานที่ตัวเองตั้งไว้ จับนวมอีกครั้งเป็นเวลา 3 นาทีเพื่อปกป้องแฟมิลี่ นอกจากนี้นัคเคิ้ลและอเลาดิก็ยังนั้นมีความคล้ายคลึงกับความสัมพันธุ์ของฮิบาริและเรียวเฮในอีก 10 ปีข้างหน้าคือ นัคเคิ้ลชอบไปมาหาสู่กับอเลาดิแต่ลงท้ายก็วางมวยกันเสมอ
อาวุธ - นวม
ท่าไม้ตาย - ???

ผู้พิทักษ์แห่งอัสนี - Lampo(แรมโพ)
แรมโพเป็นลูกหลานของกลุ่มราชวงค์ที่ครอบครองที่ดินที่หนึ่ง เป็นคนที่ขี้ขลาดมาก เพราะถูกเลี้ยงมาอย่างตามใจทุกอย่างแต่เขาก็มีความสามารถที่ร้ายแรงเก็บไว้ วองโกเล่รุ่นที่ 1 จึงชักชวนเขาเข้ามาเป็นผู้พิทักษ์อัสนี แถมยังให้ออกสู้รบในแนวหน้าอีกด้วยเพื่อขจัดความขี้ขลาดและเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเขา รอเวลาที่จะปลดปล่อยออกมา นิสัยคงแบบเดียวกับแรมโบ้ ขี้แย แบบเด็ก ๆ รูปร่างหน้าตาของแรมโพเหมือนแรมโบ้ในอีก 10 ปีข้างหน้าต่างกันเพียงสีผมและสัญลักษณ์ใต้ตาข้างขวาที่แรมโพจะเป็นรูปสายฟ้า แต่ของแรมโบ้จะเป็นรูป # เท่านั้น (Lampo เป็นภาษาอิตาลีถ้าแปลเป็นภาษาอังกฤษก็คือ "flash" หรือ "lightning" ที่แปลว่า "สายฟ้า")
อาวุธ - กระทะ
ท่าไม้ตาย - ???

ผู้พิทักษ์แห่งสายหมอก - Demon Spade(เดม่อน สเปด)
เดม่อน สเปด มาจากแฟมิลี่ที่เป็นคู่แข่งของวองโกเล่ ภายหลังกลายเป็นคนทรยศเดม่อนเลยตัดสินใจออกจากวองโกเล่แฟมิลี่รุ่นที่ 1 โดยมอบแหวนวองโกเล่แห่งสายหมอกให้กับลูกสาวของตนเป็นคนสวมไว้แทน(น่ากลัวว่าหน้าจะคล้ายโคลม) แต่เขาก็ยังคงเก็บนาฬิกาพกอันเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพเอาไว้ มีคำว่า "ฮืม (Hmm~)" ติดปากอยู่เสมอ ลักษณะเหมือนมุคุโร่นิสัยก็คงแบบเดียวกันคือ ปากไม่ตรงกับใจ ว่ากันว่าผู้ใดที่ถูก เดม่อน สเปดจ้องมองผ่านเลนส์ปีศาจจะถูกสาป และยังใช้มองทะลุได้ทุกสิ่ง ว่ากันว่าผู้ที่มีปัญหากับ เดม่อน สเปด วันต่อมาจะพบคน ๆ นั้นนอนลอยคอตายอยู่ที่ทะเล เดม่อน สเปด ยังเป็นเป็นผู้พิทักษ์ของบอสวองโกเล่ทั้ง 2รุ่นคือ เป็นผู้พิทักษ์สายหมอกให้กับ วองโกเล่รุ่นที่1 กับ รุ่นที่2อีกด้วย
อาวุธ - คฑา ,เลนส์ปีศาจ
ท่าไม้ตาย - ???
Consulenza Esterna Della Famiglia องค์กรที่ปรึกษานอกแก๊งค์
Consulenza Esterna Della Famiglia ; CEDEF เป็นองค์กรผู้ดูแลนอกแก๊ง,ที่ปรึกษานอกแก๊งของวองโกเล่แฟมิลี่ ที่มีแต่คนฝีมือดี จะคอยช่วยวองโกเล่เมื่อเกิดเหตุอันตราย ซึ่งหัวหน้าขององค์กรจะเป็นส่วนหนึ่งในการคัดเลือกผู้สืบทอดบอสของวองโกเล่
ซาวาดะ อิเอมิสึ
พ่อของสึนะ เป็นบอสผู้ดูแลนอกแก๊งของวองโกเล่ และเป็นNo.2 ของวองโกเล่ เป็นคนที่เสนอชื่อให้สึนะเป็นวองโกเล่รุ่นที่ 10 และได้เก็บรักษาฮาร์ฟวองโกเล่ไว้
บาจิล
สังกัดอยู่ในองค์กรของผู้ดูแลนอกแก๊ง (CEDEF) ลูกศิษย์ของอิเอมิสึ สอนให้สึนะควบคุมไฟดับเครื่องชน มีไฟดับเครื่องชนเป็นสีฟ้า ธาตุ พิรุณ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น